ผม "แดง" นะครับ อ้อ ใช่ครับ นั่นแหละที่มาของ Mr.RedHair นั่นเอง เรามาแชร์โลกการลงทุนให้มันเข้าใจได้ง่ายขึ้นกันนะครับ

ปันผล กับ ดอกเบี้ย มันไม่เหมือนกัน!!




คำถาม ที่ทำให้รู้ว่า คนที่ถามน่าจะมีปัญหาในอนาคต เพราะความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง นั่นก็คือ

"ลงทุนในกองทุน AA แล้วมันให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่"
"ปกติลงทุนในหุ้น ดอกเบี้ยปีละเท่าไหร่"

เห้ย!! ไม่ใช่แล้ว ดอกเบี้ยกับปันผล มันไม่เหมือนกันนะ!!


ก่อนอื่นเลย ผมขอคาดเดาก่อนว่า คำถามลักษณะนี้ เป็นเพราะคนที่ถามเองเนี่ย รู้จักคำว่าดอกเบี้ยจากการฝากเงิน หรือปล่อยกู้ และยังไม่รู้จักคำว่าลงทุนสักเท่าไหร่ เพราะสถานะของผู้ลงทุนจะไม่เหมือนกัน

หมายความว่า 2 อย่างนี้ต่างกันแบบมีนัยยะสำคัญ ที่ต้องเข้าใจมันก่อนเลยนะครับ

ดอกเบี้ย
ถ้าเราถามถึงสิ่งนี้ นั่นหมายถึง เราอยู่ในสถานะ เจ้าหนี้ ครับ มันคือการที่ เราเป็นผู้มีเงิน และมีผู้ต้องการใช้เงิน มาขอยืมเงินเรา แน่นอนว่า เงินก้อนที่เราให้ไป ในช่วงที่เค้ายืมอยู่ เราก็เอาเงินก้อนนั้นมาทำอะไรไม่ได้ นั่นก็แปลว่าเราจะเสียผลประโยชน์ในช่วงเวลานั้นไป แทนที่เราจะได้ใช้เงิน หรือนำเงินนี้ไปสร้างผลตอบแทน
ซึ่งการจ่ายดอกเบี้ย ก็คือการชดเชยในส่วนที่เราเสียไปนั่นเอง ทีนี้การจ่ายดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับตกลงกันว่า ทุกๆเดือน ทุกๆสัปดาห์ หรือทุกๆปี ซึ่งเมื่อครบสัญญาแล้ว เราก็จะได้เงินต้นคืน + ดอกเบี้ยที่เราได้มาตลอดทาง สมมตินะครับ
ถ้าเราให้ยืมไป 100 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี ยืมไปทั้งหมด 5 ปี เงินที่เราจะได้คืนก็จะเท่ากับ
100 + 5(10) = 150 ครับ

ปันผล 
ถ้าผลตอบแทนที่ได้รับคือเจ้าสิ่งนี้ แสดงว่าเราอยู่ในสถานะ เจ้าของ นั่นแปลว่าเงินที่เรานำเข้าไปลงทุน ก็คือเราร่วมหุ้น เพื่อทำกิจการนั้นๆ ซึงปันผล ก็คือเงินที่จ่ายออกมาให้ผู้ร่วมทุน หรือผู้ถือหุ้น ซึ่งนั่นแปลว่าผลลัพธ์ที่ได้มา จะต้องขึ้นกับผลประกอบการของบริษัทด้วยนั่นเอง ทีนี้การจ่ายปันผลนั้น
ปกติแล้วจะจ่ายโดยดูจากส่วนกำไรที่กิจการนั้นๆทำได้ แบ่งออกมาให้กับผู้ถือหุ้น แปลว่า หากขาดทุน อาจจะไม่ทำการจ่ายปันผลก็ได้ และหากจ่ายปันผลออกมาในขณะที่ขาดทุน ก็แปลว่าแบ่งเงินจากส่วนที่เป็นทุนของเราออกมาจ่ายนั่นเองครับ ตัวอย่างนะครับ
เราเข้าซื้อหุ้น เป็นจำนวน 100 หุ้น มูลค่า 1,000 บาท คือได้ต้นทุนหุ้นละ 10 บาท
สมมติให้กิจการได้กำไรมา 20% ราคาหุ้นเติบโตเป็น 12 บาท ต่อหุ้น กิจการเลือกที่จะจ่ายปันผล ประมาณ 10% ของกำไร ส่วนที่เหลืออาจจะนำไปขยายกิจการเพิ่มเติม โดยปันผลออกมาหน่วยละ 1 บาท ณ วันที่จ่ายปันผลออกมา (โดยปกติคือวันประกาศจ่าย หรือวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD) จากราคาหุ้น 12 บาท ปันออกมา 1 บาท จะทำให้ราคาหุ้นเหลือ 11 บาท +/- กับปัจจัยอื่นๆ (ปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะตลาด)
และถ้ากิจการไม่ได้กำไร แต่เลือกที่จะปันผลด้วยเหตุผลใดๆ นั่นก็จะแปลว่า จากต้นทุนที่อาจจะไม่ได้โตขึ้น หรือน้อยลง ในวันที่จ่าย ก็จะลดส่วนที่ปันผลออกไปทันที +/- กับปัจจัยอื่นๆเช่นกัน

เพราะฉะนั้นแล้ว ดอกเบี้ย และปันผล ต่างกันนะครับ แต่ทั้งคู่ ก็มีข้อดีข้อเสียในตัวเองนะครับ


ดอกเบี้ย 

ข้อดี คือ สามารถกำหนด หรือรับรู้ได้ว่าจะได้ผลตอบแทนออกมาเท่าไหร่ และยังต้องได้ แม้ว่าผู้กู้จะขาดทุนจากเงินก้อนนั้นๆก็ตาม
ข้อเสีย คือ ถ้าคนที่กู้ยืมเงิน นำเงินไปลงทุนจนขยายไปได้ 100 เท่า 1,000 เท่าก็ตาม ผู้ให้กู้ก็ยังได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงเท่านั้น


ปันผล

ข้อดี คือ ถ้ากิจการนั้นขยายตัวได้ดี ปันผล และมูลค่าของหุ้นอาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ โดยไม่กำหนดเพดาน ในฐานะผู้ร่วมหุ้น ก็จะได้ผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง
ข้อเสีย คือ ถ้ากิจการไปได้ไม่สวย เราก็ต้องร่วมรับผิดชอบขาดทุนด้วยนั่นเองครับ


จะดอกเบี้ยก็ดี ปันผลก็ดี ขอให้คนที่ติดตาม Mr.RedHair ได้กันเยอะๆนะครับ ^^
ยังไงก็อย่าลืมเข้าไปกด like Page "MrRedHair" กันด้วยนะครับ

โชคดีในการลงทุนครับ
Mr.RedHair